26 November 2012

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์โรงช้างต้น สวนจิตรลดา

src=

รูปภาพ : วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์โรงช้างต้น สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต 

ทอดพระเนตรช้างปั้นที่มีลักษณะพิเศษ ๔ ตระกูล ประกอบด้วย           พรหมพงศ์ อิศวรพงศ์ วิษณุพงศ์ และอัคนิพงศ์ โดยมีพระราชดำริให้กรมศิลปากรนำลักษณะพิเศษบางส่วนของพระเศวตอดุลยเดชพาหนซึ่งเป็นหนึ่งในช้างเผือกประจำรัชกาลมาเป็นต้นแบบ แล้วจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์รูปปั้นและเรื่องราวของช้างสำคัญประจำรัชกาลต่าง ๆ ในราชวงศ์จักรี  

ภาพจากฝ่ายช่างภาพส่วนพระองค์ สำนักพระราชวัง



วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์โรงช้างต้น สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต ทอดพระเนตรช้างปั้นที่มีลักษณะพิเศษ ๔ ตระกูล ประกอบด้วย พรหมพงศ์ อิศวรพงศ์ วิษณุพงศ์ และอัคนิพงศ์ โดยมีพระราชดำริให้กรมศิลปากรนำลักษณะพิเศษบางส่วนของพระเศวตอดุลยเดชพาหนซึ่งเป็นหนึ่งในช้างเผือกประจำรัชกาลมาเป็นต้นแบบ แล้วจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์รูปปั้นและเรื่องราวของช้างสำคัญประจำรัชกาลต่าง ๆ ในราชวงศ์จักรี

ขอขอบคุณ Facebook Information Division of OHM และสำนักพระราชวัง


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา



วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต ในการนี้ ทอดพระเนตรการดำเนินงานของโรงนมยูเอชที สวนจิตรลดา ซึ่งพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งเมื่อปี ๒๕๔๖ เพื่อแก้ปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาด โดยมีกำลังการผลิตทั้งในบรรจุภัณฑ์แบบกล่องและแบบถุงรวม ๒๐,๐๐๐ ลิตร/วัน 

ขอขอบคุณ  Facebook Information Division of OHM  และ สำนักพระราชวัง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา





วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๔.๕๗ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต ในการนี้ ทรงเยี่ยมโรงโคนมสวนจิตรลดา ซึ่งได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๐๕ เพื่อส่งเสริมอาชีพเลี้ยงโคนมแก่ราษฎร ซึ่งถือได้ว่าเป็นอาชีพพระราชทาน รวมทั้งทำการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์โคนมที่เหมาะสมกับประเทศไทย ปัจจุบันเลี้ยงโคนมพันธุ์โฮสไตล์ ฟรีเซียน ซึ่งเกิดจากการผสมเทียม เป็นวัวเพศเมีย จำนวน ๔๓ ตัว สามารถรีดนมได้ทั้งหมด ๑๖ ตัว โดยน้ำนมดิบที่รีดได้จะนำไปแปรรูปที่ศูนย์รวมนมเพื่อผลิตเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ ส่วนวัวเพศผู้จะนำเข้าโครงการโคพระราชทานเพื่อมอบให้แก่ราษฎรหรือหน่วยงานต่าง ๆ ต่อไป

ขอขอบคุณ Facebook Information Division of OHM และสำนักพระราชวัง

23 November 2012

โอบามาได้เข้าเฝ้าในหลวง

โอบามา เผย สุดประทับใจได้เข้าเฝ้าฯ ในหลวง (ไอเอ็นเอ็น)








     ผู้นำสหรัฐฯ เผย ประทับใจที่สุดคือการได้รับพระบรมราชานุญาตโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ ที่ทรงช่วยให้ประเทศไทยมีความมั่นคงมายาวนาน

          ภายหลังการร่วมหารือแบบทวิภาคี ระหว่าง ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้แถลงข่าวร่วมกัน โดย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ดีใจที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เลือกมาไทยเป็นประเทศแรก หลังจากชนะการเลือกตั้ง เพราะปีหน้าความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ จะครบ 180 ปี ซึ่งไทยถือเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในเอเชีย มีอุดมการณ์ทางการเมืองคล้ายกันในเรื่องประชาธิปไตย การค้าเสรี และการปกครอง ซึ่งไทยจะเริ่มกระบวนการพิจารณาเข้าร่วมเจรจา ทรานส์แปซิฟิก พาร์ทเนอร์ชิพ (TPP) โดยจะศึกษาผลกระทบและข้อผูกพันทางการค้า ทั้งภาครัฐและเอกชน

          ทั้งนี้ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา บอกว่า ที่เลือกมาไทยเป็นประเทศแรก เพราะเป็นมิตรประเทศที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชีย และความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตของสหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่ดีในภูมิภาคนี้ อีกทั้ง ยังชื่นชมรัฐบาลไทย ที่สามารถรักษาระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับประเทศอื่นในภูมิภาค และที่ประทับใจที่สุด คือ การได้รับพระบรมราชานุญาตโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ที่ทรงช่วยให้ประเทศไทยมีความมั่นคงมายาวนาน

          ทั้งนี้ สหรัฐฯ ต้องการยกระดับความสัมพันธ์กับไทย ในด้านการทหาร ความมั่นคง การค้า การลงทุนในกรอบเอเปก และหวังว่าจะสามารถเริ่มเจรจาสนธิสัญญาการค้าแปซิฟิก หรือ พีทีที รวมทั้ง มีข้อผูกพันการค้าเสรีที่ก้าวหน้าและเป็นธรรม

ขอขอบคุณ kapook.com 
และสำนักพระราชวัง




17 November 2012

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนีนาถ ทรงเสด็จพระราชดำเนิน ทุ่งมะขามหย่อง




ภาพประวัติศาสตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนีนาถ ทรงเสด็จพระราชดำเนิน ทุ่งมะขามหย่อง ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2539 เป็นเวลา 16 ปีมาแล้ว ยังความปราบปลื้มปิติมิรู้ลืมมาสู่ชาวอยุธยาเมื่อ พระองค์ทรงเคียวเกี่ยว­ข้าวที่ทุ่งมะขามหย่อง เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้­ ที่ชาวอยุธยาไม่มีวันลืม ครบรอบ 16 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเกี่ยวข้าวที่ทุ่งมะขามหย่อง จ.พระนครศรีอยุธยา โอกาสนี้ทางจังหวัดได้จัดสร้างพระบรมรูปนูนสูง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถือเคียวเกี่ยวข้าว เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เป็นพระบรมรูปนูนสูง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถือเคียวเกี่ยวข้าว ซึ่ง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้จัดสร้างขึ้นภายในบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี ในโอกาสครบรอบ 16 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเกี่ยวข้าวที่ทุ่งมะขามหย่อง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2539 สำหรับเคียวดังกล่าวเป็นเคียวสแตนเลส ประดับมุก ทำขึ้นใหม่ด้วยฝีมือของนายพยงค์ ทรัพย์มีชัย นายช่างที่ตีเคียวอันเดียวกับที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เกี่ยวข้าวที่ทุ่งมะขามหย่อง เมื่อ 16 ปีก่อน นายพยงค์ เปิดเผยถึงความภาคภูมิใจในฐานะช่างตีเคียว พร้อมยืนยันว่า จะตั้งใจทำงาน สืบสานอาชีพช่างตีมีดและเคียวเอาไว้ต่อไป 
 "อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี" ทุ่งหันตรา พระนครศรีอยุธยา : http://www.youtube.com/watch?v=lPtbDYVfceI

แรงบันดาลใจของในหลวง Inspiration of The King